ค่า "IR" สำคัญมาก!! ก่อนแพ็กแบต "ลิเธี่ยม" เราจำเป็นต้องรู้..!!!

📌ลิงค์สั่งซื้อ แบต Victory LFP (3.2V)
LAZADA 👉https://s.lazada.co.th/s.kBOAC?cc
Shopee 👉https://shope.ee/40ENUHE4QG

📌ลิงค์สั่งซื้อ แบต M-Powe LFP (3.2V)
https://shope.ee/fyB9grRfE

สวัสดีครับยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่อง ZimZimDIY
สำหรับวันนี้ ผมมีค่าๆหนึ่ง ที่นัก DIY แพ๊กแบตลิเธี่ยม มือใหม่ จำเป็นจะต้องรู้
โดยเฉพาะแบตเตอร์รี่ มือ 2 ที่ซื้อมาใช้งาน
อย่างในมือที่ผมถืออยู่นี้ ทั้ง 2 ก้อน เป็นแบตเตอร์รี่ ลิเธี่ยมไอร่อนฟอสเฟส
มีค่าความจุใกล้เคียงกัน นั้นก็คือ 5,000 mAh ทั้งคู่
เพื่อนๆคิดว่า แบตเตอร์รี่ ทั้ง 2 ก้อนนี้ ตัวไหน รับส่ง กระแสได้มากกว่ากันครับ
ถ้าหาก ถามตัว ผม ผมก็ไม่สามารถที่จะ ตอบได้ เช่นกัน
จนกว่าผมจะ มีเครื่องวัด ตัวหนึ่งที่ สามารถ วัด ค่าความต้านทานภายในแบตเตอร์รี่ ออกมาได้
โดย ปกติทั่วไปแล้ว แบตเตอร์รี่ลิเธี่ยม มันไม่ได้มีค่า ความจุ และ ค่าแรงดันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ตัวมันจะมี ค่าความต้านทานภายในแบตเตอร์รี่ แฝงอยู่ด้วย
ค่าความต้านทานภายในแบตเตอร์รี่ หรือเรียกว่าค่า ir นี้ ชื่อเต็มเขาเรียกว่า Internal Resistance of Battery
โดย ค่านี้ มักจะเป็นค่าที่ ต่ำเอามากๆ นะครับ
ต่ำระดับไหน ก็คือตัวมัน จะถูกวัดอยู่ในหน่วย
Milliohms(mΩ) ถ้าแบตก้อนไหน มีค่า มากว่าหน่วย มิลลิโอห์ม ปลดประะจำการได้ เลยครับ
การวัดค่า IR ของแบตเตอรี่
การวัดค่า IR ของแบตเตอรี่ เขาจะใช้เครื่องมือ เครื่องมือหนึ่ง ที่เรียกว่า "Battery Analyzer" หรือ "Battery Tester"
ซึ่งราคาก็ ถือว่า พอสมควรใช้ได้เลย ครับ
ส่วนค่า IR ที่เหมาะสม ก็จะขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของแบตเตอรี่ ตัวนั้นๆ
แต่ที่แน่ๆก็คือ ค่า IR ที่ต่ำ ก็ถือว่า ให้ประสิทธิภาพที่ดี ต่อการใช้งาน ครับ
ที่จริง ตามหลักการแล้ว ความต้านทานภายในแบตเตอร์รี่ ค่า ir ไม่ควรที่จะมีค่านี้ ด้วยซ้ำครับ ควรจะ เป็น '0'mΩ ได้ยิ่งดี
ซึ่งมันจะทำให้ แบตที่ เราแพ๊กเป็นโมดูล เนี้ยะ การชาร์จ แบตมันก็จะเต็มพร้อมๆกัน และ การใช้ แบตมัน ก็จะหมดไปพร้อมๆกัน
แต่ในความเป็นจริง แบตจะมีค่าความต้านทานภาย ในด้วย เสมอๆ
ทั้งจากบอดี้ของมัน ตัวโลหะเอง รวมไปถึง ปฎิกิริยา ทางเคมี ระหว่าง ลิเธี่ยมไอออน และ อิเล็กโทรไลต์
ถ้าหาก แบตมีค่าความต้านทานภายในสูง จะเป็นอย่างไร
1. แบตก็จะจ่ายกระแสได้น้อย , ความจุน้อย
2. ประสิทธิภาพของแบตต่ำ
3. มีการสูญเสียพลังงาน เกิดขึ้น
4. ถ้าซื้อเป็นแบบมือสองมาใช้ อาจจะได้แบตที่ เก่ามากๆ มาใช้ เนื่อง แบตเก่ามักจะมีค่า IR สูง
และให้เพื่อนๆคิดว่า ขณะที่เรา กำลังชาร์จแบตอยู่ ตัวแบตมี ค่าความต้านทานสูง
ตัวต้านทานทั่วไปปกติ มันจะทำหน้าที่ต้านทาน การไหลของกระแสไฟฟ้าอยู่แล้ว
ซึ่งถ้าอยู่ในแบต ชาร์จด้วยกระแสสูง มันก็จะทำให้
แบตเตอร์รี่ ตัวนั้นร้อน
และยิ่งชาร์จ ที่ความร้อนก็จะสูงขึ้น ก็ทำให้แบตเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นไปอีก
เห็นไหมครับว่า แบตที่มีค่า ir สูง มักจะมีปัญหา จะไม่เป็นที่ต้องการใน สังคม
ทีนี้มาดู แบตเตอร์รี่ ที่มี ค่าความต้านทานภายในต่ำ กันบ้างครับ จะเป็นอย่างไร
1.แบตเตอร์รี่ก็จะ สามารถ รับส่ง กระแส ได้สูง
2.แบตที่มีค่า IR ต่ำ มักจะมี ค่าความจุสูงไปด้วย หรือจะบอกว่า แบตเนี้ยะ
ยังมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้อีกหลายปีอยู่นั้นเองครับ
ทีนี้มาดูปัญหาที่นัก DIY มือใหม่มักจะเจอบ่อยๆ
นั้นก็คือ
การ แพ๊คแบตโดยไม่สนใจกว่า แบตเตอร์รี่นั้น มีค่า ir เท่าไหร่ ไม่ได้คำนึงว่า ค่า ir ต่างกันมากแค่ไหน
อย่างเช่น ตัวอย่างนี้ จะเห็นได้ว่า ขณะจ่ายกระแสให้กับโหลด
1. BMS ต่ำตัด เร็วกว่า ความเป็นจริง เพราะว่าแบตที่มีค่า ir ต่ำ มันจะจ่ายกระแสได้ดีกว่า แบตก้อนอื่นๆ
2. BMS เต็มตัด เร็วกว่าความเป็นจริง เพราะว่าแบตที่มีค่า ir ต่ำ มักจะรับกระแสได้ดีกว่า แบตก้อนอื่นๆ พูดง่ายๆ ว่า มันขยันกว่า
3. Active Balance ทำงานหนัก เกลียไฟแทบที่จะ ไม่ทัน เพราะว่า ไอ้แบตตัวที่ขยัน มันเต็มเร็วครับ แบตก้อนอื่นๆ ชาร์จเต็มไม่ทันมัน
เกร็ดน่ารู้ สำหรับ ค่า ir ต่างกันเพียง 1 mOhm อาจจะ จ่ายกระแสต่างกันราว 10%
แล้วที่ขายกัน ในตลาดบ้านเรา
ค่า ir อาจจะมีจำหน่ายใน ช่วงระหว่าง 6 จนถึง 18 mOhm
ซึ่งบอกได้เลยครับว่า ถ้าเอามาใช้ มี Balace กันทั้งวันทั้งคืนอย่างแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้นวิธีการ แพ๊คแบตที่ดีที่สุด
ก็คือ เราควรที่จะ ใช้แบตที่มีค่า ความจุเท่ากัน และ คัด ค่า ir ที่มีค่าใกล้เคียงกันมากที่สุด
ยิ่งต่ำยิ่งดีครับ แบตก็ใช้ได้นานขึ้น
ถ้าแพ๊ก ใส่ในรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เหมือนผมในคลิปที่แล้ว ผมก็จะเห็นว่า ได้ระยะทางที่ไกลมาก
แต่ถ้าหากเรา หาแบตที่มีค่า ir ต่ำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ เราสามารถ แพ๊กแบตค่า ที่ ir สูงได้ แต่ขออย่างเดียว ขอ ให้ค่า มันเคียงกันก็พอ
เพราะถึงแม้ว่า ตัวมัน ความจุ อาจจะน้อยกว่า การ รับส่งกระแสก็อาจจะได้ไม่เยอะ
แต่อย่างน้อยมันก็สามัคคีกัน มันทำงานกันเป็นทีม หมดก็หมด พร้อมกัน เต็มก็เต็มพร้อมกัน
หลายๆคนก็ถามว่า อ้าว ถ้าอย่างงี้ หาก ผมไม่มีเครื่องมือ วัดค่า ir แล้วจะทำ อย่างไร
ไม่เป็นไรครับ สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีเครื่องมือนี้
ก็สามารถ ค้นหาแบรนด์ ที่น่าเชื่อถือ
ที่มีการคัดค่า ir มาให้แล้ว อย่างเช่น
แบตเตอร์รี่แบนด์ Victory หรือ MPower
เขา จะมีการคัดค่า ir ค่า อยู่ระหว่าง 6 - 7 mOhm
และ แต่ละล๊อตทื่ซื้อไป เขาจะคัดค่า IR ให้เท่ากันเป๊ะทุกตัว
หรือยู่ในช่วง ต่างกันไม่เกิน +- 0.1 mohm อย่างแน่นอนครับ

พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าซื้อไป เพื่อนๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ สามารถประกอบ ใช้งานได้เลย
แถม แบตทุกก้อนก็ ยัง ถูกชาร์จจนเต็ม มาตั้งแต่บริษัท ด้วย
ถ้าหากเพื่อนๆ สนใจ เดี๋ยวผมจะใส่ลิงค์ สั่งซื้อไว้ใต้คลิปนี้ให้นะครับ
ขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่ติดตามรับชมครับ