เคลมชุดไทยออกสื่อใหญ่ในจีน สร้างภาพจำใหม่ ว่านั่นคือการแต่งกายดั้งเดิมของกัมพูชา | Thailand

ชุดไทยพระราชนิยม กำลังถูกกัมพูชาประกาศเป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว ตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ในเวทีประกวดนางงามต่างๆเท่านั้น ในงานแสดงวัฒนธรรมประจำชาติทั่วไป ชาวเขมรได้หันมาใส่ชุดไทยสไบผ้าถุง โดยเฉพาะชุดไทยพระราชนิยม พร้อมประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่า นี่คือชุดประจำชาติของเขมร ล่าสุด เจนน่า เซเลบวัยรุ่นคนดัง ลูกครึ่งฝรั่งเศส ที่ชาวกัมพูชายกย่องให้เป็นเจ้าหญิง เพียงเพราะมีเชื้อสายเจ้า ได้ออกสื่อโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของจีน CCTV พร้อมแต่งกายในชุดไทยพระราชนิยม พร้อมประกาศว่า เป็นชุดประจำชาติของกัมพูชา ในรายการที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชา นอกจากนั้น ยังมีการร้องเพลงโชว์ และสอนรำให้กับผู้ชมชาวจีนในห้องส่งอีกด้วย ถือว่าเป็นการสร้างภาพจำ ต่อชุดประจำชาติเขมร ให้เกิดขึ้นในต่างประเทศอีกครั้ง โดยเฉพาะประเทศจีน ที่ตอนนี้น่าจะเข้าใจไปแล้วว่า ชุดที่เห็นอยู่นี้ เป็นชุดประจำชาติของเขมร เพราะก่อนหน้านั้น เจนน่าได้เคยปรากฏตัว ตามรายการต่างๆในประเทศจีน พร้อมโชว์การแสดงที่เกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมของกัมพูชา แต่ในเรื่องของการแต่งกาย ยังไม่ชัดเจนเหมือนกับครั้งล่าสุด นอกจากนั้น ในช่วงหลังๆ เธอยังแสดงออกชัดเจน ถึงความเป็นเจ้าของชุดไทยพระราชนิยมอีกด้วย

ราวครึ่งปีที่ผ่านมา เจนน่าได้สร้างความฮือฮามาแล้ว เมื่อมีข่าวว่า เธออาจจะได้เป็นศิลปิน K-POP จากกัมพูชาคนแรก หลังจากที่ได้ไปเป็นเด็กฝึก ของบางค่ายเพลงจากประเทศเกาหลีใต้ จนมีข่าวว่าเธอหายหน้าหายตาไปจากสังคมพักใหญ่ เพื่อซุ่มฝึกเป็นไอดอล K-POP แต่ในที่สุด ดูเหมือนข่าวที่ว่า อาจจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือ หรือเธอยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ ที่จะเป็นศิลปินระดับเอเชียได้ ความฝันของชาวเขมร ที่จะได้เห็นลิซ่าแห่งกัมพูชา จึงดับลงไปด้วย แต่เธอกลับมาปรากฏตัว ตามสื่อต่างๆในอีกบทบาทหนึ่ง ที่เน้นการนำเสนอความเป็นเขมร จากการแต่งกาย และการแสดงศิลปะวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม

การออกสื่อของเซเลบเขมรครั้งล่าสุดนี้ เรียกได้ว่า สร้างอิมแพคท์ต่อกลุ่มผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องสำคัญของจีน และเป็นช่องที่ถือว่าข่าวที่นำเสนอ มีความน่าเชื่อถือ เหมือนเป็นการรับรองไปกลายๆว่า ชุดแต่งกายที่เจนน่าสวมใส่ เป็นชุดประจำชาติที่ถูกต้องของกัมพูชา จะว่าไปแล้ว เรื่องในลักษณะนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะคงไม่มีใครในโลก ที่อยู่ๆ จะสวมใส่ชุดประจำชาติของประเทศอื่น แล้วออกสื่ออ้างว่า เป็นชุดประจำชาติของตัวเอง แรกๆก็อาจจะไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่า จะมีการตอบโต้กลับ โดยประเทศที่เป็นเจ้าของชุด มากน้อยแค่ไหน แต่พอเวลาผ่านไป กลับมีเพียงเสียงบ่นของประชาชน บนโซเซียลมีเดียเท่านั้น ในขณะที่หน่วยงานของรัฐเจ้าของชุด กลับไม่มีมาตรการตอบโต้ใดๆ งานนี้ก็เลยทำให้ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ ยิ่งได้ใจมากขึ้นไปอีก จนในตอนหลัง สามารถเคลมได้อย่างมั่นใจ ซึ่งท่าที ที่ไม่มีการตอบโต้ใดๆของทางการไทย หรือแม้แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กลายเป็นการยอมรับโดยดุษฎีไปแล้ว ในทางการฑูต ถือว่าเสียเปรียบ เพราะนั่นสื่อถึงการยอมรับ เพียงเพราะวางเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ติดตามช่องของเราได้ที่นี่ FaceBook   / thailand.theworld