ฎีกา InTrend Ep.123 บอกกล่าวผู้ค้ำประกันพร้อมลูกหนี้ชั้นต้นจะทำให้มีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกันหรือไม่

Описание к видео ฎีกา InTrend Ep.123 บอกกล่าวผู้ค้ำประกันพร้อมลูกหนี้ชั้นต้นจะทำให้มีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกันหรือไม่

ฎีกา InTrend Ep.123 บอกกล่าวผู้ค้ำประกันพร้อมลูกหนี้ชั้นต้นจะทำให้มีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกันหรือไม่
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : วิญญู พิชัย, สรวิศ ลิมปรังษี, ณัฐสิมา อนันทนุพงศ์
Show Creator : ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, รวิภา กิ่งจักร์
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : โสรัตน์ ไวศยดำรง, สุพัตรา ขำมีศักดิ์, สุภาวัชร์ ดลมินทร์
Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์, กนกกูล วสยางกูร
Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์

การบอกกล่าวให้ผู้ค้ำประกันทราบถึงการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ชั้นต้นเป็นมาตรการที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้โอกาสผู้ค้ำประกันในการชำระหนี้ โดยการบอกกล่าวนี้กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการภายใน 60 วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด หากไม่มีการบอกกล่าวให้ถูกต้องอาจส่งผลต่ออำนาจฟ้องของเจ้าหนี้ได้ ปัญหาที่จะนำมากล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นกรณีที่เจ้าหนี้บอกกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันพร้อมกับลูกหนี้ชั้นต้นจะทำให้เจ้าหนี้มีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกันได้หรือไม่
ธนาคารแห่งหนึ่งได้ว่าจ้างนายแดงให้ทำการประเมินราคาที่ดินที่ลูกค้านำมาจำนองไว้เป็นประกัน โดยในการว่าจ้างนี้นายดำได้ทำสัญญาค้ำประกันการทำงานของนายแดงไว้ด้วย นายแดงได้ทำการประเมินราคาที่ดินแปลงดังกล่าวในราคาตารางวาละ 12,000 บาท ธนาคารจึงขายที่ดินแปลงนั้นไปในราคา 11 ล้านบาท
ต่อมาธนาคารพบว่าในช่วงเวลาเดียวกับที่นายแดงประเมินราคาที่ดินนั้น มีที่ดินแปลงอื่นในละแวกเดียวกันที่มีการขายและประเมินราคาได้ตารางวาละ 20,000 บาท ซึ่งจะทำให้ที่ดินแปลงนั้นมีราคาประมาณ 20 ล้านบาท ธนาคารจึงพบว่าได้ขายที่ดินไปในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง
ธนาคารจึงได้ส่งหนังสือบอกกล่าวให้ทั้งนายแดงและนายดำชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประเมินราคาที่ดินผิดพลาดคิดเป็นเงิน 7 ล้านบาท เมื่อนายแดงและนายดำไม่ชำระหนี้ ธนาคารจึงฟ้องบุคคลทั้งสองต่อศาล
นายดำซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจึงต่อสู้ว่าธนาคารบอกกล่าวให้ตนชำระหนี้ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ในกรณีการบอกกล่าวผู้ค้ำประกัน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 686 ได้กำหนดให้เจ้าหนี้ต้องบอกกล่าวให้ผู้ค้ำประกันทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด โดยจะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวไปถึงผู้ค้ำประกันไม่ได้
กรณีที่ธนาคารเรียกร้องให้นายแดงชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาว่าจ้างให้ประเมินราคาที่ดินนี้จะเห็นได้ว่าเป็นการเรียกให้ชำระหนี้ที่ในสัญญาไม่ได้กำหนดการชำระหนี้ไว้โดยเฉพาะ เนื่องจากหนี้หลักที่นายแดงต้องทำคือการประเมินราคาที่ดิน ซึ่งนายแดงก็ได้ทำหน้าที่ดังกล่าวไปแล้ว เพียงแต่พบว่าเป็นการทำงานที่บกพร่องก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ว่าจ้าง ธนาคารซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างจึงมาเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลัง
เมื่อเกิดหนี้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว นายแดงย่อมไม่รู้แน่ว่าหนี้เป็นจำนวนเท่าใดแน่ และไม่รู้ด้วยว่าตนมีหน้าที่ต้องชำระภายในกำหนดเมื่อใด เจ้าหนี้จึงต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้โดยกำหนดเวลาพอสมควรให้ลูกหนี้ชำระหนี้เสียก่อน เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดเวลานั้นจึงจะถือว่านายแดงซึ่งเป็นลูกหนี้ชั้นต้นผิดนัด ตามมาตรา 204 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ทำให้ในขณะที่ธนาคารส่งหนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้ค่าเสียหายไปยังนายแดงและนายดำพร้อมกันไปในคราวเดียวกันนี้ ขณะที่นายดำซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันได้รับหนังสือจึงเป็นช่วงเวลาที่นายแดงยังไม่ผิดนัด เพราะยังไม่พ้นกำหนดเวลาที่จะต้องชำระหนี้ตามหนังสือบอกกล่าว การบอกกล่าวของธนาคารจึงไม่ได้ทำภายหลังที่ลูกหนี้ผิดนัดตามที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีที่เจ้าหนี้บอกกล่าวไปยังลูกหนี้ชั้นต้นและผู้ค้ำประกันพร้อมกันในหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้แน่นอน จึงไม่ถือเป็นการบอกกล่าวให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ภายหลังจากที่ลูกหนี้ผิดนัดตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหนี้จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดได้

(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2565)

Комментарии

Информация по комментариям в разработке