ชัวร์ก่อนแชร์ : "ลมตด” บอกสุขภาพภายในของลำไส้ได้จริงหรือ ?

บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า เสียง กลิ่น และจำนวนครั้งของการผายลม สามารถบ่งบอกสุขภาพภายในของลำไส้ได้ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับ คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

🎯 ตรวจสอบกับ อ.นพ.นรินทร์ อจละนันท์
หัวหน้าสาขาวิชาอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

-----------------------------------------------------

📌 สรุป : ❌ มั่ว อย่าแชร์ ❌

Q : ที่เขาแชร์ว่าเสียง กลิ่น และจำนวนครั้งของการผายลม
สามารถบ่งบอกสุขภาพภายในลำไส้ได้นี่จริงไหม ?
A : การผายลมมากหรือน้อย
หรือกลิ่นต่าง ๆ ไม่ได้บ่งบอกโรคเลย

Q : ส่วนแรกพูดถึงการสังเกตกลิ่นของการผายลม
เขาบอกว่า ถ้าเราผายลมไร้กลิ่น เกิดจากการได้รับโปรตีนน้อย
และ ผายลมมีกลิ่น เกิดจากการทานอาหารที่มีโปรตีน
และผักที่มีกลิ่นแรงมากจริงไหม ?
A : ผมว่าไม่ใช่ การผายลมเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
การผายลมมันเกิดจากอาหารที่เรากิน
เกิดจากการทำงานของลำไส้ที่มีการบีบตัว
และสิ่งสำคัญที่สุดคือแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้
การที่ปริมาณของกลิ่นต่าง ๆ มันขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากิน
โปรตีนอาจจะเพิ่มความมีกลิ่น
ที่เขาเรียกว่า ไฮโดรเจนซัลไฟด์ มากขึ้นก็จริง
แต่ถ้ามันมีแบคทีเรียบางอย่างที่มากหรือน้อยกว่าปกติ
มันอาจจะทำให้กลิ่นนั้นผิดเพี้ยนไปได้
เพราะฉะนั้นด้วยกลิ่นเอง ไม่สามารถบ่งบอกโรคได้ชัดเจน

Q : กลิ่นของการผายลมสามารถบอกว่า
เรากินโปรตีนมากหรือน้อยได้ไหม ?
A : ไม่ได้ การย่อยมันขึ้นอยู่กับอาหารการกิน
การกินเครื่องเทศบางอย่าง
อาหารบางอย่างที่มีสารซัลเฟอร์เยอะขึ้น ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรตีน
ก็มีกลิ่นที่เหม็นมากกว่าปกติได้
เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้จึงไม่ได้เป็นตัวบ่งบอก

Q : เขาอีกบอกว่าถ้าตดมีกลิ่นแรงมากผิดปกติ
อาจเกิดจากลำไส้มีการติดเชื้อแบคทีเรียจริงไหม ?
A : อันนี้ก็ไม่เกี่ยวเลย อย่างที่เรียนว่า
กลิ่นทุกอย่างเกิดขึ้นจากอาหารที่กิน
เกิดจากลักษณะของแบคทีเรียที่มาย่อยสลายมัน
เพราะฉะนั้นการมีกลิ่นต่าง ๆ จึงไม่ได้บ่งบอกถึงภาวะโรคเลย

Q : เขาบอกถึงการสังเกตเสียงของการผายลม
บอกว่าผายลมไร้เสียง เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดไม่กระชับ
ทำให้บีบตัวได้น้อย แรงดันในลำไส้จึงมีไม่มากนี่จริงไหม ?
A : ผมว่าไม่ ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับปริมาณของลมเองมากกว่า
เพราะว่าในการผายลม บางครั้งปริมาณของลมที่มาก
ปริมาณก็จะออกมาเยอะ
ถ้ามันค้างน้อยมันก็อาจจะออกมาน้อยแค่นั้นเอง
ไม่ได้บ่งบอกถึงเสียง

Q : เขาบอกอีกว่าถ้าผายลมมีเสียง
เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดบีบตัวมาก แรงดันในลำไส้จึงมีมาก ?
A : ผายลมแบบนี้เป็นพวกดีแต่เสียง มักไม่ค่อยมีกลิ่น
ไม่ได้เกี่ยวกันเลย

Q : เขายังบอกเกี่ยวกับจำนวนการผายลมด้วยว่า
ถ้าผายลมน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน
จะเสี่ยงโรคลำไส้อุดตัน ?
A : ถ้าเกิดไม่ผายลมเลย อันนี้เสี่ยงลำไส้อุดตัน
แต่น้อยหรือมากไม่ได้บ่งบอกชัดเจน

Q : เขาบอกว่า ผายลม 10-20 ครั้งต่อวันถือว่าปกติ
แต่ถ้ามากกว่า 20 ครั้งต่อวัน เสี่ยงโรคทางเดินอาหาร ?
A : ผายน้อยผายมากไม่ได้บ่งบอกโรคเลย

Q : ผายลมตลอดทั้งวันผิดปกติไหม ?
A : ไม่ผิดปกติ แต่มันขึ้นอยู่กับเราอาจจะกินอาหารบางอย่าง
ที่กระตุ้นให้เกิดการผายลมเยอะกว่าปกติ
ขอยกตัวอย่างเช่นพวกพืชตระกูลถั่ว
เครื่องเทศ อาหารที่มัน
หรือบางทีเกี่ยวกับแบคทีเรียบางอย่าง
ที่อาจจะมีคุณสมบัติในการย่อยสลายสิ่งต่าง ๆ มากกว่าปกติ
ก็จะทำให้เกิดการผายลมที่มากขึ้น
โดยไม่ได้บ่งบอกถึงโรค

Q : สิ่งที่น่าเป็นกังวลมากกว่าคือการไม่ผายลม ?
A : กลุ่มที่น่ากลัวคือไม่มีผายลมเลย
กลุ่มนี้ต้องระวังภาวะของลำไส้ที่มีการอุดตันที่เกิดขึ้น

Q : คำแนะนำหากเราเริ่มคิดว่าผายลมมากเกินไป ?
A : อันดับแรกให้ดูแลตัวเองก่อน
ให้หลีกเลี่ยงอาหารต่าง ๆ ที่อาจจะกระตุ้นการผายลมได้
เช่น อาหารย่อยยาก มันเยอะ ๆ
พวกกลุ่มที่เป็นไฟเบอร์เยอะ ๆ
พวกพืชตระกูลถั่ว
อาหารบางอย่าง เช่นอาหารที่อาจจะเพิ่มแบคทีเรียในร่างกาย
เช่น กลุ่มที่เป็นนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต
พวกนี้ก็เพิ่มแบคทีเรีย อาจจะทำให้เกิดการผายลมเยอะขึ้นได้
อาหารระหว่างอาหารที่อุ่นกับอาหารที่เย็นชืด
พวกอาหารเย็นชืด ทำให้เกิดการผายลมที่เยอะขึ้น

อันดับสอง ถ้าหลังจากดูแลตัวเองเต็มที่แล้ว
มันก็ยังไม่ดีขึ้น มาพบแพทย์
มันมีตั้งแต่ง่ายที่สุดบางคนคือ
กินพวกกลุ่ม ไซเมทิโคน (Simethicone) อาจจะช่วยได้บางคน
หรือถ้าเป็นมาก ๆ เอาไม่อยู่เลย
บางทีก็พิจารณาของการให้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ

Q : ทางที่ดีที่สุดคือควรผายลมอย่างสุภาพ
ผายลมกลางแจ้งได้ แต่ไม่ควรผายลมต้นลม ?
A : อันนี้ก็จริง ถ้าผายต้นลม คนที่อยู่หลังลมก็จะต้องได้กลิ่น
เป็นการรบกวนผู้อื่น

Q : สรุปแล้วที่เขาแชร์เกี่ยวกับ เสียง กลิ่น และจำนวนครั้งของการผายลม
สามารถบ่งบอกสุขภาพภายในของลำไส้ได้เป็นอย่างไร ?
A : ไม่ควรแชร์ เพราะข้อมูลมันมีความผิดพลาด
อาจจะทำให้ผู้อ่าน อาจจะเข้าใจผิดได้

👉 การได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง จะทำให้เราสามารถสังเกต
และดูแลสุขภาพของเราได้อย่างเหมาะสม

#ชัวร์ก่อนแชร์ #sureandshare
-----------------------------------------------------

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ "ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์" 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40sureandshare
FB ::   / sureandshare  
Twitter ::   / sureandshare  
IG ::   / sureandshare  
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok ::   / sureandshare