ทำไมยิ่งออกกำลังกายเยอะ ยิ่งอ้วน & ลดไขมันยาก?

เพื่อนๆกำลังเครียดและสงสัยอยู่ไหมครับว่า ทำไมออกกำลังกายแล้วน้ำหนักขึ้น หรือรู้สึกว่ายิ่งออก ยิ่งอ้วนขึ้นทุกวันๆ มันเป็นเพราะอะไร?

เช่น เราอาจจะกินอาหารประมาณเดิม และออกกำลังกายทุกวัน บางวันอาจจะวันละ 2 รอบ

แต่น้ำหนักกลับไม่กระดิก และรู้สึกว่าอ้วนขึ้น โดยเฉพาะช่วงต้นขาและสะโพก เป็นต้น

ดังนั้น คำถาม คือ ที่น้ำหนักไม่ลดหรือว่าเพิ่มขึ้น มันเป็นเพราะร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นไหม เราจะสามารถออกกำลังกายได้ทุกวันหรือเปล่า หรือมันจะหนักเกินไป

และเราจะมีวิธีแก้ปัญหาออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักไม่ลด มีไขมันเพิ่ม หรือเป็นหมูที่แข็งแรงได้ยังไงบ้าง?

สวัสดีครับ ผมโค้ชเค Fitterminal.com และวันนี้ ผมจะพาไปดูเหตุผลว่า ทำไมยิ่งออกกำลังกายมากขึ้น น้ำหนักกลับยิ่งเพิ่มขึ้นตามด้วย และเราจะมีวิธีแก้ปัญหายังไง จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ

ทำไมยิ่งออกกำลังกายเยอะ ยิ่งอ้วน & ลดไขมันยาก?

เพื่อนๆครับ ก่อนอื่น สำหรับเพื่อนๆที่ตัวสูง มีน้ำหนักน้อย เช่น สูง 170 เซนติเมตร แต่หนักแค่ 50 กิโลกรัม หรือเป็นคนอ้วนผอม ที่เรียกว่า “หุ่น Skinny Fat”

ในช่วงที่เราเริ่มควบคุมอาหารได้ดีขึ้น กินโปรตีนถึง และมีการเล่นเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อด้วย น้ำหนักเราอาจจะไม่ลดลง หรืออาจจะเพิ่มขึ้นได้เป็นเรื่องปรกติ

และที่สำคัญ รูปร่างเราจะลีนและสมส่วนมากขึ้น เราจะรู้สึกเฟิร์ม กระชับ มีความคล่องตัวมากขึ้น และใส่เสื้อผ้าแล้วรู้สึกมั่นใจมากขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าน้ำหนักจะไม่ลดลงก็ตาม

ดังนั้น สำหรับเพื่อนๆที่ผอมอยู่แล้ว มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายน้อย และมีกล้ามเนื้อน้อยด้วย น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่มีมวกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการลดไขมันของเรา มากกว่าการลดน้ำหนักนั่นเองครับ

ทีนี้ ประเด็นสำคัญต่อมา คือ การโหมออกกำลังกายหนักๆ วันละ 1-2 รอบ

หรือการมี Mindset ที่ว่าเราจะต้องออกกำลังกายทุกวัน เพราะยิ่งออกกำลังกายเยอะๆ ยิ่งจะเผาผลาญได้เยอะ และลดไขมันได้ไวขึ้น แต่นี่อาจจะเป็นความเชื่อที่ผิด และส่งผลเสียมากกว่าผลดีได้

งานวิจัยในปี 2016 ก็สรุปมาด้วยว่า พอเราออกกำลังกายถึงระดับหนึ่งแล้ว อัตราการเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ อาจจะไม่ได้เยอะอย่างที่เราคาดหวังด้วย

ทำไมเราออกกำลังกายแล้ว ลดน้ำหนักไม่ได้ หรือไม่เห็นผลเหมือนตอนแรก?

ในช่วงแรกเพื่อนๆเริ่มออกกำลังกายและไดเอท จะสังเกตว่าน้ำหนักจะลดลงเร็ว และหุ่นเฟิร์มขึ้นเร็วมากๆ เพราะร่างกายเริ่มมีการปรับตัว จากที่เราเคยใช้ชีวิตเนือยนิ่งมานาน แล้วมาเริ่ม Active มากขึ้น

แต่สำหรับเพื่อนๆที่ออกกำลังกายมานานสักพักแล้ว เช่น ออกกำลังกายนานกว่า 3-6 เดือน อาจจะเริ่มสังเกตเห็นว่า เหมือนร่างกายเราไม่ได้เผาผลาญพลังงานแคลอรี่เยอะเหมือนช่วงแรก แถมน้ำหนักและไขมันอาจจะลดลงช้ามากๆ

งานวิจัยในปี 2021 ยังพบด้วยว่า ถึงแม้ว่าผู้เข้าทดลองจะออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Aerobic Training) ที่เผาผลาญพลังงานได้ 20 แคลอรี่ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม หรือประมาณ 2,000-2,500 แคลอรี่ต่อสัปาดห์ก็ตาม

การลดน้ำหนักจะยังช้าลงได้มากถึง 50% เพราะอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ภายใน 24 ชั่วโมง หรือตลอดทั้งวัน จะมีน้อยลง

หรือพูดง่ายๆ คือ ถึงแม้ว่าเราจะใช้เวลาในการออกกำลังกายเท่าเดิม แต่เราอาจจะลดน้ำหนักได้ช้าลง เพราะร่างกายเราจะปรับอัตราการเผาผลาญใน 1 วัน ลงเรื่อยๆนั่นเองครับ

งานวิจัยอีกชิ้นในปีเดียว ที่ดูอัตราการเผาผลาญใน 1 วัน (Total Energy Expenditure) ของผู้เข้าทดลอง 1,754 คน ยังพบว่า Energy Compensation หรืออัตราการเผาผลาญที่ลดลง อาจจะมีมากถึง 28%

นั่นหมายความว่า ถ้าเราเคยออกกำลังกาย 1 ครั้ง แล้วเบิร์นพลังงานได้ 500 แคลอรี่ พอเวลาผ่านไปสักพัก พลังงานแคลอรี่ที่เผาผลาญออก อาจจะลดลงเหลือแค่ 350 แคลอรี่เท่านั้น เป็นต้น

และสิ่งที่น่าสนใจ คือ ยิ่งเรามีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายเยอะแค่ไหน หรืออ้วนมากเท่าไหร่ Energy Compensation นี้ ยิ่งจะมีมากขึ้นเท่านั้น หรืออาจจะมากถึง 50% ได้ (45.7%)

อ่านบทความเต็ม: https://bit.ly/4dMm5fv
===============================
ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายอยากลดน้ำหนัก ลดไขมัน อยากมีหุ่นในฝัน ให้ตัวเองภูมิใจสักครั้งในชีวิต
แอดไลน์ที่ลิ้งค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนได้ครับ
===============================
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
Fitterminal LINE: @fitterminal หรือคลิก https://lin.ee/Txxw3zR
Fitterminal Facebook: http://bit.ly/2GeJebZ
Fitterminal Instagram: http://bit.ly/2Zh5KtG
Fitterminal Website: http://bit.ly/2GKOWDa
#ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ifลดน้ำหนัก