ไขมันไม่ลด น้ำหนักค้าง เพราะ “Metabolism” ทำงานช้า?

Описание к видео ไขมันไม่ลด น้ำหนักค้าง เพราะ “Metabolism” ทำงานช้า?

ตอนนี้ เพื่อนๆกำลังกลุ้มใจและเริ่มเครียดไหมครับ ที่ดูเหมือนว่าระบบเผาผลาญพัง หรือระบบ Metabolism ทำงานช้าลง จนน้ำหนักไม่ยอมลดลง รู้สึกว่าอ้วนขึ้น หรืออึดอัดและเสื้อผ้าคับไปหมด

ประเด็น คือ เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่า เรากินอาหารเยอะเกินไปหรือเปล่า หรือกรรมพันธุ์ทำให้ร่างกายเราเผาผลาญช้ากว่าคนอื่นไหม?

เพราะพอเรากินน้อยลง ร่างกายจะหวงไขมัน อยู่ใน Starvation Mode และคิดว่าพลังงานแคลอรี่และสารอาหารไม่เพียงพอ

ในทางตรงกันข้าม พอเราเปลี่ยนมากินเยอะขึ้น เราก็จะลดน้ำหนักไม่ได้ และรู้สึกว่าอ้วนขึ้น

ดังนั้น คำถาม คือ เราจะมีวิธีช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ หรือการทำงานของระบบ Metabolism ได้ยังไงบ้าง เพื่อให้น้ำหนักกลับไปเท่าเดิม และลดไขมันได้ดีต่อเนื่อง?

สวัสดีครับ ผมโค้ชเค Fitterminal.com และวันนี้ ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับการทำงานของระบบ Metabolism และวิธีแก้ปัญหาระบบเผาผลาญทำงานช้าที่ได้ผลจริง จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ

ไขมันไม่ลด น้ำหนักค้าง เพราะ “Metabolism” ทำงานช้าหรือเปล่า?

อย่างที่เกริ่นไปในบทความก่อนหน้าว่า ระบบ Metabolism คือ กระบวนการทางเคมีต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย เพื่อเปลี่ยนพลังงานแคลอรี่จากอาหารและเครื่องดื่ม ให้กลายไปเป็นแหล่งพลังงานที่ร่างกายใช้ได้

และระบบ Metabolism หรืออัตราการเผาผลาญของร่างกาย จะมาจาก 3 ช่องทาง นั่นคือ

Resting Metabolic Rate หรืออัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน เพื่อการอยู่รอด

Thermic Effect of Foods หรือค่า TEF ที่เกิดจากการย่อยและดูดซึมอาหาร และ

Thermic Effect of Activity หรือค่า TEA ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวระหว่างวัน และการออกกำลังกาย

ต่อมา ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ น้ำหนัก เปอร์เซ็นต์ของมวลกล้ามเนื้อ และไขมันร่างกาย ต่างก็จะมีผลต่ออัตราการเผาผลาญ หรือทำให้ระบบ Metabolism ของแต่ละคนแตกต่างกันได้

ระบบ Metabolism ทำงานช้าลง เป็นเพราะอะไร?

ก่อนอื่น เพื่อนๆอาจจะเข้าใจมาตลอดว่า คนที่ผอม หุ่นดี หรือมีกล้ามเนื้อชัดๆ จะกินอะไรก็ไม่อ้วน เพราะระบบเผาผลาญทำงานดี หรือมี Resting Metabolic Rate สูงกว่าเรา

แต่จริงๆแล้ว คนที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายเยอะกว่า หรือมีน้ำหนักมากกว่า จะมีอัตราการเผาผลาญระหว่างพัก หรือค่า “RMR” เยอะกว่าคนผอม หรือคนหุ่นดี

เช่น จากการรวบรวมบทสรุปจากงานวิจัยกว่า 21 ชิ้นในปี 2016 พบว่า คนที่มีน้ำหนักเยอะกว่า หรือมี Body Fat Percentage สูงกว่า อาจจะมีค่า RMR สูงกว่าคนผอม เกือบ 400 แคลอรี่ต่อวัน (360 kcal/day)

นี่คือเหตุผลที่ ถ้าน้ำหนักเราไม่ลด เสี่ยงที่จะโยโย่ หรือลดไขมันไม่ได้ เราอาจจะมาดูคุณภาพและปริมาณอาหารเราอีกทีดีกว่าว่าไม่มากหรือน้อยเกินไป

หรือไม่ควรโทษว่าระบบ Metabolism ทำงานช้า และระบบเผาผลาญพังนั่นเองครับ

RELATIVE VS. ABSOLUTE METABOLIC RATE

ก่อนอื่น ถ้าคนที่น้ำหนักเยอะกว่าหรือตัวใหญ่กว่า จะเบิร์นพลังงานแคลอรี่ได้มากกว่าคนที่ผอมกว่า ถึงแม้ว่าจะทำกิจกรรมเหมือนกัน เช่น เดิน 5 กิโลเมตรเท่ากัน ซึ่งนี่จะเรียกว่า “Absolute Metabolic Rate”

แต่ถ้าเราเปรียบเทียบคน 2 คน ที่มีอายุ เพศ และสัดส่วนของไขมันและมวลกล้ามเนื้อเท่ากัน แล้วอัตราการเผาผลาญทำงานช้าหรือเร็วต่างกัน นี่จะเรียกว่า “Relative Metabolic Rate”

เช่น ถ้าอายุ เพศ มวลกล้ามเนื้อ และ Body Fat Percentage ของคน 2 คน เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน อัตราการเผาผลาญ หรือการทำงานของระบบ Metabolism ก็จะมีความใกล้เคียงกันด้วย ประมาณ 80-85%

ประเด็น คือ 15-20% ที่เหลือนี่แหละครับ ที่อาจจะเป็นตัวที่ทำให้ อัตราการเผาผลาญพลังงาน ความเร็วในการสร้างกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก และลดไขมัน แตกต่างกัน

อ่านบทความเต็ม: https://bit.ly/4aE34Jw
===============================
ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายอยากลดน้ำหนัก ลดไขมัน อยากมีหุ่นในฝัน ให้ตัวเองภูมิใจสักครั้งในชีวิต
แอดไลน์ที่ลิ้งค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนได้ครับ
===============================
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
Fitterminal LINE: @fitterminal หรือคลิก https://lin.ee/Txxw3zR
Fitterminal Facebook: http://bit.ly/2GeJebZ
Fitterminal Instagram: http://bit.ly/2Zh5KtG
Fitterminal Website: http://bit.ly/2GKOWDa
#ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ifลดน้ำหนัก

Комментарии

Информация по комментариям в разработке