ทำไม IF 16/8 ดีกว่า การลดน้ำหนัก แบบนับแคลอรี่ ทั่วไป?

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมโค้ชเค จะพาเพื่อนๆไปดูว่า การทำ Intermittent Fasting หรือการอดอาหารเป็นเวลา

ทำไมถึงอาจจะดีกว่าและเวิร์กกว่าการไดเอททั่วไป ที่บอกว่าการลดน้ำหนักต้อง นับแคลอรี่ กินน้อยลง ออกกำลังกายหนัก

หลายเหตุผลและผลสรุปจากงานวิจัยต่างๆ จะทำให้เพื่อนหมดข้อข้องใจทันทีครับ

อยากลดน้ำหนัก ต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย? ผิด!

พอบอกว่าอยากลดความอ้วน อยากลดน้ำหนัก หรืออยากลดไขมัน สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่ คิดถึง คือ ต้องกินให้น้อยกว่าร่างกายเผาผลาญ และออกกำลังกายมากขึ้น หรือ “Eat Less, Move more” นั่นเอง

คำแนะนำดีๆในเน็ตก็มีเยอะแยะไปหมดครับ

ยกตัวอย่างเช่น บางคนก็บอกว่า ควบคุมอาหาร กินอาหารคลีน ไม่ต้องออกกำลังกาย ก็ลดน้ำหนักได้แล้ว

บางคนก็บอกว่า ถ้าไม่มีวินัยของการออกกำลังกาย และการจัดการเรื่องกิน ยังไงก็เฟล

สรุปสั้นๆ คือ จะลดน้ำหนักให้ได้ผล เราต้องกินให้น้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญ และออกกำลังกายมากขึ้นด้วย ถ้าน้ำหนักคุณไม่ลด วิธีไม่ได้ผิด คุณนั่นแหละที่ทำไม่ได้เอง (Blame the Victims)

คำถาม คือ ถ้าวิธีนี้มันเวิร์ค แล้วทำไมคนส่วนใหญ่จึงลดน้ำหนักไม่ได้ พอลดไปซักพักเจอกำแพง น้ำหนักไม่ลดลงอีก และบางคนถึงลดน้ำหนักได้ก็กลับมาอ้วนมากกว่าเดิม

ผมคิดว่ามันมีอยู่ 2 เหตุผล นั่นคือ

วิธีควบคุมแคลอรี่ กินน้อยๆ และออกกำลังกายมากขึ้น ไม่ได้ผลจริง
วิธีนี้มันพูดง่าย แต่ทำตามยาก ทำให้การลดน้ำหนักมันไม่ได้ยั่งยืน?

แต่แทนที่เราจะมาเถียงกันว่า การควบคุมอาหาร การกินคลีน และการออกกำลังกายมากขึ้น ได้ผลหรือไม่ได้ผล ผมว่าเรามาดูงานวิจัยที่น่าเชื่อถือดีกว่าครับ ว่าเขาสรุปว่ายังไงบ้าง

งานวิจัยชี้ ทำไมการลดน้ำหนักแบบธรรมดา ถึงล้มเหลว

มีงานวิจัยที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 1959 ที่พบว่า การลดน้ำหนักด้วยการกินน้อยลง และเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ด้วยการออกกำลังกายนั้น มีอัตราการล้มเหลว ที่จะลดน้ำหนักไม่สำเร็จมากถึง 98%!

นั่นหมายความว่า การลดน้ำหนักทั่วไป ใน 100 คน จะมีแค่ 2 คนเท่านั้นที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จ

ไม่เพียงเท่านี้ครับ ในปี 2015 นักวิจัยที่ประเทศอังกฤษได้รีวิว อัตราความสำเร็จในการลดน้ำหนักในระยะเวลา 9 ปี ของผู้เข้าร่วมทดลอง ที่เป็นผู้หญิงและผู้ชาย มากกว่า 175,000 คน

เพื่อนๆรู้ไหมครับว่า ผลสรุปออกมาแบบน่าตกใจมาก เพราะผู้หญิงที่ทำตามสูตรการลดน้ำหนักแบบ ควบคุมแคลอรี่ และออกกำลังกาย มีอัตราความล้มเหลวมากถึง 99.2%

ใช่ครับ เปอร์เซ็นต์ของอัตราความสำเร็จ ของผู้เข้าร่วมการทดลองที่เป็นผู้หญิง มีแค่ 0.8% เท่านั้น

ต่อมา องค์กร Women’s Health Initiative (WHI) ได้ทำการลดลองเพื่อเปรียบเทียบวิธีลดน้ำหนัก ว่าวิธีไหน คือ วีธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

งานวิจัยนี้ใช้เวลานานถึง 7 ปีครึ่ง และมีมีผู้เข้าร่วมทดลองเป็นผู้หญิง 50,000 คน

นักวิจัยได้แบ่งผู้เข้าทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ครับ

กลุ่มที่ 1 จะกินอาหารคลีน ซึ่งเน้นกินอาหารไขมันต่ำ ผลไม้ เมล็ดธัญพืช และผัก

ผู้เข้าร่วมทดลองจะกินน้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญ 361 แคลอรี่

ท้ายสุด ผู้หญิงกลุ่มที่ 1 จะกินไขมันน้อยลง จาก 38.8% เหลือแค่ 29.8% และเพิ่มการออกกำลังกายมากขึ้น 14% เพื่อเร่งการเผาผลาญพลังงาน

ตัดภาพมาที่กลุ่มที่ 2 ผู้หญิงกลุ่มนี้จะกินอาหารแบบปรกติ เคยกินยังไงก็กินอย่างงั้นเลย ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเลย

แน่นอนนักวิจัยทุกคนสันนิษฐานไว้ล่วงหน้า และผมก็เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนก็คิดเหมือนกัน

ว่ากลุ่มที่ 1 จะสามารถลดน้ำหนักได้เยอะแน่ๆ เพราะกินน้อยลงกว่าที่ร่างกายเผาผลาญ แถมยังออกกำลังกายมากขึ้น 14% อีก

นักวิจัยเลยคาดการณ์ว่า กลุ่มที่ 1 จะลดน้ำหนักได้ 36 ปอนด์ หรือประมาณ 16 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 12 เดือน

และแน่นอนเขาไม่หวังว่ากลุ่มที่ 2 จะลดน้ำหนักได้ เผลอๆน้ำหนักอาจจะเพิ่มมากขึ้นซะด้วยซ้ำไป

ผลสรุปออกมา คือ ถึงแม้ว่ากลุ่มที่ 1 จะกินอาหารแบบไขมันต่ำ ลดพลังงานแคลอรี่ลง และออกกำลังกายมากขึ้น แต่ค่า BMI ไม่ลดลงเลย และขนาดรอบเอวยังมีขนาดเพิ่มขึ้นด้วย

ใช่ครับ ผลสรุปมันน่าตกใจมาก มันทำให้เรารู้ว่าการลดน้ำหนักทั่วไป ที่แนะนำให้เรากินน้อยลง กินคลีน ควบคุมแคลอรี่ และออกกำลังกายมากขึ้น มันไม่ใช่วิธีที่ได้ผล ถึงได้ผลก็แค่ในช่วงแรกๆเท่านั้น

คำถามคือ ทำไมการลดน้ำหนักแบบธรรมดา ไม่เวิร์ก ปัญหามันอยู่ตรงไหน?

อ่านบทความเต็ม 👉http://bit.ly/2IU249v

💪 ถ้าไขมันทำคุณให้เครียด ไม่มั่นใจ อยากเริ่มทำ IF 16/8 อย่างถูกวิธี ออกกำลังกายแบบมีหลักการ ควบคุมอาหารให้พอเหมาะ และมีโค้ชดูแล

แอดไลน์ที่ลิ้งค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนได้ FREE ครับ

#ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ออกกำลังกายหลังคลอด
===============================
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
Fitterminal LINE: https://lin.ee/oUroe8R
Fitterminal Facebook: http://bit.ly/2GeJebZ
Fitterminal Instagram: http://bit.ly/2Zh5KtG
Fitterminal Website: http://bit.ly/2GKOWDa

Brolls: Pexcel.com, Unsplash.com, Freepik.com, Videezy.com